ผ้าคลุมศีรษะ

2,000 ปีก่อน พระเจ้าพระผู้ทรงสร้างเสด็จมาสู่โลกนี้ด้วยนามว่าพระเยซู และทรงตั้งพันธสัญญาใหม่ขึ้น
พันธสัญญาใหม่นี้ทำให้บุตรของพระเจ้าที่ทุกข์ทรมานอยู่ในความบาปและความตายได้รับการอภัยโทษบาปและชีวิตนิรันดร์
ตลอดเวลา 3 ปี พระเยซูทรงวางแบบอย่างในการรักษาพันธสัญญาใหม่ให้กับพวกสาวก

“เพราะว่าเราได้วางแบบแก่ท่านแล้ว เพื่อให้ท่านทำเหมือนดังที่เราได้กระทำแก่ท่านด้วย”ยน. 13:15

และภายหลังจากฟื้นคืนชีพ พระองค์ก็ทรงขอให้พวกสาวกสั่งสอนมนุษย์ทุกคนให้รักษาพันธสัญญาใหม่
ที่จะนำไปถึงซึ่งความรอดได้ (มธ. 28:19)

เหล่าสาวกจึงประกาศพันธสัญญาใหม่ตามคําสั่งของพระเยซู
ในพันธสัญญาใหม่ที่เราจะได้รับการอภัยโทษบาปนี้มีกฎเกณฑ์ในการนมัสการด้วย
ถ้าผู้ชายคลุมศีรษะระหว่างนมัสการ ถือเป็นการทำความอัปยศแก่พระเจ้า ถ้าผู้หญิงไม่คลุมศีรษะระหว่างนมัสการ ก็เหมือนทำความอัปยศแก่ศีรษะของตน (1 คร. 11:4–5)
ฉะนั้น คริสตจักรที่ทำตามพันธสัญญาใหม่ซึ่งพระคริสต์ทรงสร้างขึ้น ผู้หญิงต้องใส่ผ้าคลุมศีรษะระหว่างนมัสการ ส่วนผู้ชายไม่ต้องคลุมศีรษะ
อย่างไรก็ตาม หลังจากพระเยซูกลับสู่สวรรค์ มีบางคนโต้แย้งว่าไม่ต้องใช้ผ้าคลุมศีรษะในนมัสการ
ต่อคำกล่าวโต้แย้งนั้น อัครทูตเปาโลแนะนำว่า ผู้หญิงควรใส่ผ้าคลุมศีรษะ เพราะธรรมชาติของมนุษย์ ผมยาวเป็นสิ่งสวยงามสำหรับผู้หญิง

“ท่านพิจารณาดูเถิดว่าเป็นการเหมาะสมหรือ ที่หญิงจะอธิษฐานต่อพระเจ้าโดยปราศจากการคลุมศีรษะ ธรรมชาติไม่ได้สอนท่านหรือว่า ถ้าชายมีผมยาวก็นับว่าเป็นความอัปยศ แต่ถ้าหญิงมีผมยาวก็นับว่าเป็นความภาคภูมิของเธอ เพราะว่าผมยาวที่เธอได้รับก็เพื่อคลุมศีรษะ ถ้าผู้ใดต้องการจะหาเรื่องโต้แย้งเรื่องนี้ เราไม่มีการกระทำนอกเหนือกว่านี้ และบรรดาคริสตจักรของพระเจ้าก็ไม่มีเช่นกัน”1 โครินธ์ 11:13–16, ฉบับ NTV (ฉบับแปลใหม่)

พระคัมภีร์ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้หญิงต้องใส่ผ้าคลุมศีรษะระหว่างนมัสการ
การที่ผู้หญิงใส่ผ้าคลุมศีรษะระหว่างนมัสการนั้น ถือเป็นหนึ่งในกฎเกณฑ์ของพันธสัญญาใหม่ที่พระเยซูทรงสั่งสอนไว้และที่อัครทูตเปาโลประกาศ
พระเจ้ามีพระประสงค์ที่จะให้เรารักษากฎเกณฑ์ผ้าคลุมศีรษะ