พระคัมภีร์เป็นหนังสือคำพยากรณ์

บางคนมองว่า พระคัมภีร์เป็นเพียงหนังสือเทพนิยายหรือประวัติศาสตร์ของอิสราเอล อย่างไรก็ดี พระคัมภีร์เป็นหนังสือเก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยผู้เขียนหลายสิบคนที่อาศัยอยู่ ในยุคสมัยที่ต่างกัน มีอาชีพ และอายุที่ต่างกัน ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1,600 ปี ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ การบันทึกในระหว่าง 1,600 ปีนั้น เชื่อมโยงกันเป็นคำพยากรณ์และการสำเร็จ

ท่ามกลางบันทึกในพระคัมภีร์ ขอให้เรามาศึกษาคำพยากรณ์เกี่ยวกับกษัตริย์ไซรัสและการสำเร็จด้วยกัน กษัตริย์ไซรัสเป็นผู้สถาปนาจักรวรรดิเปอร์เซียและเป็นผู้พิชิตประเทศทางทิศตะวันออก ขอให้เรามาพิจารณาความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเขาที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์

“ไซรัสพระราชาแห่งเปอร์เซียตรัสดังนี้ว่า ‘พระเยโฮวาห์พระเจ้าของฟ้าสวรรค์ได้พระราชทานบรรดาราชอาณาจักรแห่งแผ่นดินโลกแก่เรา และพระองค์ทรงกำชับให้เราสร้างพระนิเวศให้พระองค์ที่เยรูซาเล็ม ซึ่งอยู่ในยูดาห์’ ” อสร. 1:2

เหตุใดไซรัส กษัตริย์แห่งเปอร์เซียจึงสรรเสริญพระเจ้าแห่งอิสราเอล และปลดปล่อยชนชาติอิสราเอลให้เป็นอิสระ? กษัตริย์ไซรัสเห็นชื่อของพระองค์บันทึกไว้ในหนังสืออิสยาห์ซึ่งถูกบันทึกเมื่อประมาณ 170 ปีก่อนที่พระองค์จะทรงปลดปล่อยชนชาติอิสราเอลให้เป็นอิสระ

“พระเจ้าตรัสกับผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้คือไซรัส ผู้ซึ่งเราได้จับมือขวาไว้ เพื่อปราบหลายประชาชาติให้อยู่ข้างหน้าท่าน ... เราจะให้ทรัพย์สมบัติแห่งความมืดแก่เจ้า และขุมทรัพย์ในที่ลี้ลับ เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่า คือเรา พระเจ้าพระเจ้าแห่งอิสราเอล ซึ่งเรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า” อสย. 45:1-3

กษัตริย์ไซรัสตระหนักว่า การพิชิตบาบิโลนนั้น สำเร็จลงได้ก็เพราะการช่วยเหลือของพระเจ้า พระองค์จึงปลดปล่อยชนชาติอิสราเอลตามที่ได้พยากรณ์ไว้ในพระคัมภีร์ ผลที่ตามมาก็คือ กษัตริย์ไซรัสยังคงได้รับการยกย่องจากผู้คนมาจนถึงสมัยปัจจุบันนี้ว่า เป็นกษัตริย์ในสมัยโบราณที่ปลดปล่อยทาสให้เป็นอิสระและยอมรับสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา พระคัมภีร์ยังบอกล่วงหน้าถึงการประสูติของพระเยซูเป็นเด็กคนหนึ่ง ตั้งแต่ประมาณ 700 ปีก่อนที่พระองค์จะเสด็จมาสู่โลก

“... ดูเถิด หญิงสาวคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่า อิมมานูเอล” อสย. 7:14

ตามคำพยากรณ์นี้ พระเจ้าประสูติเป็นพระเยซูโดยผ่านกายของหญิงพรหมจารีคือมารีย์ (มธ. 1:18-23) นอกจากนี้ พระคัมภีร์ได้พยากรณ์ไว้อย่างละเอียดว่า พระเยซูจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไร

“ท่านได้ถูกมนุษย์ดูหมิ่นและทอดทิ้ง ... แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายสมบูรณ์นั้นตกแก่ท่าน ที่ท่านต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี” อสย. 53:3–5

ตามคำพยากรณ์นี้ พระเยซูทรงถูกแทงด้วยหอก และถูกเฆี่ยนตี (มธ. 27:26-35, ยน. 19:34) คำพยากรณ์ของพระคัมภีร์นั้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเข้าใจได้เมื่อคำพยากรณ์ถูกเขียนขึ้น แต่ทั้งหมดก็สำเร็จลงแล้ว ดังนั้น พระคัมภีร์จึงเตือนเราว่า อย่าประมาทคำพยากรณ์ (1 ธส. 5:20) นั่นก็เพราะว่า เราไม่สามารถรับความรอดได้เลย หากเราประมาทคำพยากรณ์ของพระคัมภีร์ ดังที่คำพยากรณ์ในอดีตได้สำเร็จลงครบถ้วนแล้ว คำพยากรณ์ที่ยังคงเหลืออยู่ก็จะสำเร็จลงอย่างแน่นอน

“ทั้งจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ และจะเกิดกันดารอาหาร และโรคภัยในที่ต่างๆ และจะมีความวิบัติอันน่ากลัว และหมายสำคัญใหญ่ๆ จากฟ้าสวรรค์” ลก. 21:11

พระคัมภีร์บอกเราว่า เมื่อภัยพิบัติครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายมาถึง เราต้องหนีไปยังศิโยนเพื่อที่จะได้รับความรอด

“ ‘... มารวมกันเถิด ...’ จงยกธงขึ้นสู่ศิโยน จงรีบหนีไปให้ปลอดภัย อย่ารออยู่ เพราะเรานำความร้ายมาจากทิศเหนือ และนำการทำลายใหญ่ยิ่งมา” ยรม. 4:5-6

ศิโยน สถานที่ซึ่งมีการถือรักษาเทศกาลของพระเจ้านั้น เป็นเมืองลี้ภัยแห่งความรอดที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้แก่เรา (อสย. 33:20) สมาคมเผยแพร่ข่าวประเสริฐทั่วโลก คริสตจักรของพระเจ้าเป็นคริสตจักรเดียวในโลกที่ถือรักษาเทศกาลของพระเจ้าตามคำสั่งสอนของพระคัมภีร์ ที่นี่คือศิโยน